ถอดทรงผมยุคซิกตี้ จากภาพยนตร์เรื่อง Once Upon A Time In Hollywood
ส่องทรงผมและแฟชั่นสไตล์ Bratt Pitt, Leonado Dicaprio และตัวละครดัง ในหนัง ‘Once Upon A Time In Hollywood’
‘Once Upon A Time In Hollywood: กาลครั้งหนึ่งในฮอลลีวูด’ ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของผู้กำกับ Quentin Tarantino ได้พระเอกตัวพ่อ อย่าง Leonardo DiCaprio มารับบทเล่นเป็นตัวเอก Rick Dalton ดาราทีวีที่ความนิยมตก และ Brad Pitt รับบทเป็น Cliff Booth สตั๊นท์แมนเพื่อนคนสนิท โดยเนื้อเรื่องดำเนินในปี 1969 หรือ ช่วงปลายยุคทองของฮอลลีวูดนั่นเอง
เส้นเรื่องหลักของหนัง นอกจากจะติดตามชีวิตของ Rick Dalton กับการดิ้นรนหางานแสดง เพื่อให้ได้มีชื่อเสียงในวงการต่อไป พร้อมกับชีวิตของ Cliff Booth สตันท์แมนคู่ใจแล้ว ก็ยังได้มีการหยิบเอาเรื่องราวโศกนาฏกรรมของคดีฆาตกรรมนางแบบสาว Sharon Tate ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยฝีมือสาวกของ Charles Manson มาเดินอยู่ในเส้นเรื่องด้วย เรียกได้ว่าเป็นการเอานิยายและเรื่องจริงมาบรรจบรวมกันได้อย่างมีชั้นเชิง
‘Once Upon A Time In Hollywood’
แต่นอกเหนือจากเนื้อเรื่องที่ชวนติดตามแล้ว สไตล์และแฟชั่นที่ปรากฏในหนัง ยังมีกลิ่นอายความเป็นยุคปลาย 60s ถึงช่วงต้นยุค 70s อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะส่วนของคอสตูมและสไตล์ทรงผม โดยผู้กำกับเองก็ให้ความใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ และมีความชัดเจนว่าต้องการให้ตัวละครมีรูปลักษณ์ออกมาเป็นอย่างไรตั้งแต่หัวจรดเท้า
Janine Thompson แฮร์สไตลิสของภาพยนตร์เรื่องนี้ เล่าว่าเธอต้องเก็บข้อมูลเป็นจำนวนมากและใช้เวลานานทีเดียว เพื่อเตรียมทรงผมสำหรับทุกคน โดยเฉพาะทั้ง Leo และ Brad
COMB OVER & MOD
โดยทรงผมของ Brad Pitt เธอทำผมตามลุคของนักแสดงคนหนึ่งที่ชื่อว่า Christopher Jones ซึ่งเธอเองก็ยังไม่เคยรู้จักเขามาก่อน แต่พอเธอได้ดูผลงานการแสดงของเขา ก็บังเอิญพบว่าเขามีคาแรคเตอร์ที่เหมือนกับ Cliff Booth ที่ Brad Pitt รับบทพอดีเลย ดังนั้นทรงผมของ Brad จึงอ้างอิงตามลุคของ Christopher Jones นั่นเอง
ในบทจะเห็นได้ว่า Brad จะต้องขับรถอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นจุดสำคัญของทรงผมของ Brad จึงจะต้องดูเหมือนโดนลมเป่าอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับว่าเขาเพิ่งลงมาจากรถหมาดๆ แต่ส่วนทรงผมของ Leo จะมีความแตกต่างออกไป โดยจะถูกอิงจาก Edd Byrnes นักแสดงยุค 30s ที่จะมีการเซ็ตแสกข้างแบบ Comb over ชนิดที่เงาเนี้ยบและเรียบกริบ ซึ่งเป็นสไตล์แท้ๆ ของฮอลลีวูดรุ่นเก่านั่นเอง
LAYERED BOWL CUT
ตัวละครที่มีตัวตนจริงๆ ที่ถือเป็นไอคอนนิคอีกคนของฮอลลีวูด และจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Bruce Lee ซึ่งผู้กำกับต้องการให้ลุคของ Bruce ดูเหมือนในหนังเรื่อง Enter the Dragon: ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง มังกรประจัญบาน (1973) ทรงผมของ Mike Moh ผู้รับบทแสดงเป็น Bruce Lee จึงตัดผมทรงเห็ดที่ซอยแบบไล่เลเยอร์ และตัดผมหน้าม้าตรงที่ระดับเหนือคิ้ว เหมือนตัวของ Bruce ในหนังเรื่องดังกล่าวนั่นเอง
และถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่ถูกต้อง เพราะมันอยู่คนละปีกัน แต่เกวนตินก็ไม่สน เพราะ Bruce Lee ที่คนรู้จักชื่นชอบถูกจดจำยังไง นั่นก็คือสิ่งที่เขาอยากจะให้คนเห็นในหนังของเขา
มาพูดเรื่องของสไตล์การแต่งตัวกันบ้าง ที่ตลอดเรื่องเราจะได้เห็นแฟชั่นวินเทจของยุคปลาย 60s จากทุกตัวละคร แต่ที่เด่นๆ เลยก็คือตัวละครหลัก อย่าง Brad Pitt ที่ชีวิตประจำวันของเขาจะสวมเสื้อง่ายๆ ทับด้วยเสื้อฮาวายด้านนอก จับคู่กับกางเกงยีนส์สีเข้ม และรองเท้าบูท ได้กลิ่นอายวินเทจของยุคซิกตี้ก็จริง แต่ก็ยังดูเชื่อมโยงกับแฟชั่นยุค 90s อีกด้วย
ส่วนคอสตูมของ Leo ก็จะมีความเนี้ยบมากกว่า ด้วยแจ็กเก็ตหนังแบบพวกไบเกอร์ ที่มีการตัดเย็บอย่างประณีตให้ความรู้สึกเกือบจะเหมือนสูท แต่มีความเป็นทางการน้อยกว่า โดยรวมก็สะท้อนแฟชั่นของยุค 60s-70s ออกมาได้ชัดเจน แต่ในฉากที่ Leo ต้องแสดงหนัง ก็จะใส่ชุดที่เหมาะกับบทบาท อย่างเช่น พวกเสื้อและหมวกแนวคาวบอย หรือ ตอนหลังๆ ที่เขาถูกให้เล่นเป็นตัวร้าย ก็จำเป็นต้องติดหนวดเครา (ของปลอม) รุงรังด้วย
ในส่วนของแว่นตา ทั้งคู่จะใส่ทรงนักบิน หรือ Aviators กรอบสีทอง เลนส์สีน้ำตาล เป็นอะไรที่เห็นทั้งคู่ใส่อยู่ตลอดเรื่อง ทั้งตอนเดินทางและขับรถ ซึ่งแว่นนี้ก็ถือเป็นเครื่องประดับ ที่เป็นเครื่องหมายของรสนิยมของฮอลลีวูดในยุค 60s เลยก็ว่าได้
ใครที่รู้จักฝีมือของผู้กำกับ Quentin Tarantino หรือเคยชมภาพยนตร์ของเขามาก่อน ก็คงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าทั้งเรื่องบทภาพยนตร์ หรือการถ่ายทำ เขาคนนี้เก็บทุกเม็ด และวางแผนทุกอย่างไว้อย่างสมบูรณ์ ส่วนรายละเอียดของคอสตูมและทรงผม เขาก็ให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่นด้วยเช่นกัน
หากใครยังไม่ได้ไปดู ‘Once Upon A Time In Hollywood’ ก็ขอให้รีบๆ ไปดูกันก่อนออกจากโรงนะ ถึงแม้หนังจะยาวอยู่สักหน่อย แต่รับรองเลยว่าคุณจะได้เพลินเพลินไปตลอดทั้งเรื่อง และลุ้นสุดๆ ในช่วง 30 นาทีสุดท้ายแน่ๆ