ตามรอยละคร “บุพเพสันนิวาส” มารู้จักทรงผมของแม่หญิงชาวสยามในอดีตกัน

ชวนออเจ้า ... มารู้จักทรงผมโบราณ ของสตรีไทยในอดีต

กระแสฟีเวอร์ “บุพเพสันนิวาส” ละครฟอร์มยักษ์แห่งปีของทางช่อง 3 ทำให้แฟนละครติดตามกันทั่วบ้านทั่วเมือง เรตติ้งถล่มทลาย แถมตอนนี้ยังดังไกลไปถึงประเทศจีน แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ความสนุกอย่างเดียวที่คนดูจะได้รับ แต่ละครเรื่องนี้ยังให้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนไทยสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าการแต่งกาย รวมไปถึงทรงผมที่นิยมทำกันในสมัยนั้น

“วันนี้ข้าจึงอยากชวนออเจ้า มารู้จักชื่อเรียกทรงผมหญิงไทยสมัยโบราณ ว่าแต่ละทรงที่เราเห็นในละครบุพเพสันนิวาส มีชื่อเรียกเช่นใดบ้าง และมีลักษณะเป็นอย่างไร”

บุพเพสันนิวาส
ทรงมหาดไทย (Credit : Shutterstock)

ทรงมหาดไทย

เริ่มกันที่ทรงผมของ แม่หญิงการะเกด ที่รับบทโดย เบลล่า ราณี คือ “ทรงมหาดไทย” โดยผมทรงนี้มีลักษณะไถผมด้านข้าง มีผมตอนกลางศีรษะแล้วแสกกลาง ซึ่งเป็นทรงผมที่นิยมทำในช่วงเริ่มสมัยอยุธยา เหตุเพราะเกิดสงครามอยู่บ่อยครั้ง ผู้หญิงจึงต้องตัดผมให้สั้น พรางตัวให้กลมกลืนเหมือนเป็นชาย เพื่อให้ข้าศึกสับสน และจะได้สะดวกต่อการหลบหนี

 

บุพเพสันนิวาส
ทรงมหาดไทย (Credit : Shutterstock)

พอมาถึงช่วงยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ก็ยังมีการรบกันอยู่เนืองๆ ผู้หญิงจึงยังนิยมไว้ผมทรงมหาดไทยกันอยู่เช่นเดิม แต่เพื่อความสวยความงาม จึงมีการไว้ปอยผมยาวข้างหูให้พอชื่นใจ และในเวลาต่อมาผู้หญิงก็พัฒนาทรงผม ด้วยการเลิกไถข้าง และไว้ผมยาวข้างหลังให้ดูสวยงามขึ้นค่ะ

 

บุพเพสันนิวาส
ทรงผมเกล้าของหญิงไทยทางเหนือ (Credit : Shutterstock)

และถ้าสังเกตดูดีๆ จะเห็นว่าในช่วงแรกๆ แม่หญิงการะเกดจะทำผมเป็น “ทรงผมเกล้า” ก่อนจะเปลี่ยนเป็นทรงผมมหาดไทย นั่นเป็นเพราะว่าแม่หญิงการะเกดมาจากเมืองสองแคว พิษณุโลก ทางภาคเหนือตอนใต้ ซึ่งเป็นหัวเมืองรองของอยุธยาสมัยนั้น การแต่งกายและทรงผมจึงได้รับอิทธิพลมาจากพม่าและล้านนา

 

บุพเพสันนิวาส
ทรงผมเกล้าของบ่าวไพร่ (Credit : Shutterstock)

ส่วนทรงผมของบ่าว อย่าง พี่ผิน และพี่แย้ม ซึ่งรับบทโดย จรรยา ธนาสว่างกุล และ รมิดา ประภาสโนบล ก็ทำทรงผมเกล้าเช่นเดียวกับแม่หญิงการะเกด แต่จะไม่มีเครื่องประดับผมเท่านั้นเองค่ะ

 

บุพเพสันนิวาส
โซงโขดง (Credit : Shutterstock)

โซงโขดง

ต่อด้วยทรงผมของ แม่หญิงจันทร์วาด ซึ่งรับบทโดย มะปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล คือ “โซงโขดง” โดยผมทรงนี้มีลักษณะเกล้าเป็นมวยมุ่นอยู่กลางศีรษะ จากนั้นจึงรัดเกล้าเป็นห่วงยาวๆ และมีเกี้ยว หรือ พวงมาลัยมาสวมทับเอาไว้ โดยส่วนมากผมทรงนี้จะนิยมทำในหมู่ชนชั้นสูงของสมัยราชวงศ์ปราสาททอง

 

บุพเพสันนิวาส
ทรงโซงโขดงเป็นทรงผมของหญิงชนชั้นสูง (Credit : Shutterstock)

เหตุที่แม่หญิงจันทร์วาดทำทรงผมแตกต่างจากแม่หญิงการะเกดเป็นเพราะ แม่หญิงจันทร์วาดเป็นบุตรสาวของเจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) ผู้เป็นเหมือนพี่น้องของพระนารายณ์ เติบโตมาด้วยกัน เป็นคู่คิด และร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอด  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้แม่หญิงจันทร์วาดเป็นเหมือนลูกของชนชั้นสูง ส่วนแม่หญิงการะเกดเป็นบุตรสาวของพระยา จากเมืองสองแคว ซึ่งคล้ายเป็นเมืองรองของอยุธยาสมัยนั้น เมื่อนำยศของบิดามาเทียบกันแล้ว แม่หญิงจันทร์วาดจึงมีศักดิ์สูงกว่าแม่หญิงการะเกดค่ะ

 

บุพเพสันนิวาส
ทรงผมปีก (Credit : Shutterstock)

ทรงผมปีก

ตามด้วยทรงผมของ คุณหญิงจำปา ซึ่งรับบทโดย เหมียว ชไมพร จตุรภุช คือ “ทรงผมปีก” โดยลักษณะของผมทรงนี้จะมีการโกน หรือ ตัดสั้นโดยรอบศีรษะ และปล่อยผมไว้ยาวประมาณต้นคอ ส่วนกลางศีรษะจะหวีผมให้เสยตั้งขึ้น ซึ่งในโบราณเรียกว่า “ตัดผมขูดหัว” นอกจากนี้ยังมีการกันไรผมบริเวณรอบวงหน้า รวมถึงไว้จอนยาวสองข้างใบหูเพื่อความสวยงามอีกด้วย

ทั้งนี้ทรงผมของบ่าวอย่าง นางปริก ซึ่งรับบทโดย อำภา ภูษิต ก็ทำทรงผมปีกเช่นเดียวกัน แต่จะไม่มีการไว้จอนยาวๆ แบบคุณหญิงจำปาค่ะ

บุพเพสันนิวาส
ทรงดอกกระทุ่ม (Credit : Shutterstock)

ทรงดอกกระทุ่ม

ทรงผมของ คุณหญิงนิ่ม ซึ่งรับบทโดย รัชนี ศิระเลิศ คือ “ทรงดอกกระทุ่ม” โดยลักษณะของผมทรงนี้จะตลบผมไปทางด้านหลังทั้งหมด ปาดให้เรียบ และจัดทรงให้คล้ายดอกกระทุ่ม แต่จะไม่มีการทัด หรือตกแต่งทรงผมด้วยดอกไม้สด เนื่องจากมีข้อบัญญัติในกฎมณเฑียรบาลมาครั้งกรุงศรีอยุธยาแล้วว่า ห้ามสตรีทำการทัดดอกไม้ อาจเป็นเพราะมองว่าดูงามเกินจริต ขาดความสุภาพเรียบร้อย หากสตรีผู้ใดทัดดอกไม้ในเขตพระบรมมหาราชวัง จะต้องถูกลงโทษให้นำดอกไม้นั้นมายีบนศีรษะ

“เป็นเช่นใดบ้างออเจ้า … พอได้รู้ที่มาที่ไปของทรงผมในสมัยก่อนแล้ว ก็ทำให้ออเจ้าเข้าใจมิติของตัวละคร และดูละครได้สนุกขึ้นไปอีกเป็นกองเลยใช้มั้ยเจ้าคะ”

นอกจากทรงผมที่มีหลากหลายทรงแล้ว ผู้หญิงในสมัยก่อนยังมีการเซ็ตผมให้อยู่ทรงด้วยขี้ผึ้ง และล้างออกด้วยมะกรูด และขี้เถ้า ส่วนเวลาจะปิดผมหงอก ก็จะใช้วิธีจับเขม่า มาพอกผมให้ดำขลับค่ะ แต่สำหรับสาวๆ สมัยนี้ อาจจะสบายกว่าที่ไม่ต้องเซ็ตผมด้วยขี้ผึ้ง ที่มีตัวช่วยเป็นพัตตี้ หรือสเปรย์ฉีดผมที่ช่วยจัดทรงให้สวยตามต้องการและอยู่ทรงตลอดวัน ทั้งยังมีแชมพูที่ช่วยทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกและง่ายดายกว่าการมะกรูดกับขี้เถ้าอีกด้วยด้วยค่ะ  

สำหรับใครที่ดูละครแล้วอยากทำทรงผมตามแบบแม่หญิงการะเกด หรือ ทรงหญิงไทยอื่นๆ บ้าง ตอนนี้ก็เป็นโอกาสอันดี เพราะเป็นช่วงที่มีการงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า อยู่พอดี ซึ่งสาวๆ สามารถแต่งชุดไทยและทำทรงผมแบบไทยไปเดินเที่ยวงานแบบอินทั้งบรรยากาศย้อนยุคและอินเทรนด์ไปด้วยง่ายๆ เลยค่ะ โดยงานจะจัดจนถึงวัน 11 มีนาคม 2561 วันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี เปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่เวลา 10.30 – 21.00 น. ส่วนวันศุกร์และเสาร์ เปิดให้เข้าชมงานตั้งแต่เวลา 10.30 – 22.00 น. ค่ะ

บทความก่อนหน้า
บทความถัดไป
Decoration image
Decoration image