รีพอร์ตทรงผมล่าสุด ส่งตรงจาก London Fashion Week Spring / Summer 2020

สัปดาห์ London Fashion Week Spring Summer 2020 จบลงไปแล้ว แน่นอนว่านอกจากคอลเลคชั่นเสื้อผ้าสวยๆ แล้ว เทรนด์เมคอัพและทรงผมยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แฟชั่นนิสต้าทั่วโลกต่างจับตามอง ซึ่ง All Things Hair ก็ได้รวบรวมอาเทรนด์และทรงผมเด่นๆ มาให้ชมกันเช่นเคยค่ะ

เทรนด์ผมมาแรงจากรันเวย์

London Fashion Week SS20

The Middle Part

ปีนี้เทรนด์ผมแสกกลางมาแรง ตั้งแต่เวทีนิวยอร์กจนถึงลอนดอน หลายแบรนด์ดังไม่ว่าจะเป็น Burberry, Erdem, Julien Macdonald, J.W. Anderson ก็ส่งนางแบบขึ้นเวทีด้วยทรงผมแสกกลาง แต่ต่างกันในดีเทล ซึ่งมีทั้งบ็อบผมสั้น บ็อบยาวตัดตรง หรือผมลอนยาวสยาย ไปจนถึง ผมหางม้าและชิคนอนหรือมวยต่ำ

รายละเอียดของทรงผมอาจจะแตกต่างกันไป แต่ส่วนที่คล้ายกันคือ เทรนด์ผมแสกกลางในปีนี้จะเป็นลุคที่ค่อนข้างเนี้ยบ โดยหวีเรียบด้านบนลงมาจนถึงช่วงใบหู ส่วนผมส่วนที่เหลือ จะเซ็ตเป็นผมตรง ดัดหรือรวบแบบก็ได้

เทรซาเม่ เอ็กซ์ตร้า คอนโทรล ซาลอน ฟินิช มูส

ดูผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม

Editor’s tips: ทรงผมแสกกลางในสไตล์นี้ ต้องการความเรียบและไม่มีผมชี้ฟู โดยเฉพาะผมด้านบน เทคนิคในการเซ็ตทรงผม แนะนำให้ใช้มูสลูบลงบนผมเบาๆ ก่อนหวีและไดร์ให้แห้ง และในระหว่างที่หวีให้ใช้มือช่วยกดบริเวณผมด้านบนไปด้วยเพื่อช่วยให้ผมเรียบยิ่งขึ้น หรืออาจใช้กระดาษทิชชู่แผ่นหนาวางลงบนผมและใช้กิ๊บปากเป็ดหนีบเอาไว้สักครู่หนึ่งในระหว่างไดร์ผม (กระดาษทิชชู่จะช่วยไม่ให้ผมเป็นรอยหนีบ)

สำหรับทรงผมที่รวบเป็นมวยต่ำ ในตอนท้ายที่รวบผมเรียบร้อยแล้ว หากอยากเก็บผมให้เรียบอีกรอบ ให้ใช้สเปรย์แต่งผมฉีดลงบนแปรงสีฟ้นและนำมาหวีเก็บเส้นผม จะช่วยให้ได้ผมที่เรียบและอยู่ทรงสวยตลอดวัน

All The Braids

ทรงผมเปียก็เป็นอีกหนึ่งทรงที่ไม่เคยห่างหายไปจากรันเวย์ แต่ในปีนี้ผมเปียดูมีความ abstract มากขึ้นและไม่ต้องการความเนี้ยบแบบที่ผ่านๆ มา

อย่างเช่นผมเปียจาก Ashish ที่มาในแนวยุ่งเหยิงและมีดอกไม้ติดบนผม ให้ความรู้สึกราวกับไปเดินผจญภัยผ่านป่าเขาลำเนาไพรมาแบบนั้น

เช่นเดียวกับทรงผมเปียจาก Bora Aksu ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเดินฝ่าลมแรงจนผมที่ถักรวบไว้ถูกลมตีกระจาย

ที่มาแบบครีเอทสุดๆ คงจะหนีไม่พ้น ทรงผมเปียสุดล้ำของ Simone Rocha ที่ไม่เพียงมาในรูปทรงที่แหวกแนว ผมเปียยังนำไปรวมกับเครื่องประดับผมสุดครีเอทที่รูปร่างหน้าตาคล้ายเส้นฟางอีกต่างหาก

Mark Fast นำเสนอทรงผมเปียรวบสูง พันด้วยเชือกรอบโคนผมและใช้ผมเปียปลอมต่อผมให้ยาวดูสวยเฉี่ยว

เปียคอร์นโรว์ ก็ยังเป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่ได้รับความนิยมจากหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น House of Holland, Roland Mouret หรือ Victoria Beckham ใครที่อยากทำ แต่ยังแอบลังเล ก็บอกเลยว่ารีบไปจัดด่วน เพราะเป็นอีกหนึ่งทรงที่ฮิตทั้งบนเวทีนิวยอร์กและลอนดอน

Deep Side Part

ทรงผมแสกข้างลึก เป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่ได้รับความนิยมบนเวทีลอนดอนแฟชั่นวีคไม่แพ้ที่นิวยอร์ก และเช่นเดียวกัน สามารถนำไปประยุกต์ได้หลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการแสกข้างลึกกับหน้าม้าเฉียง ปล่อยผมกับหรือรวบผมเป็นมวยต่ำ และทำได้ทั้งแบบผมยาวและผมสั้น

เช่นเดียวกันเทรนด์ผมแสกกลาง การเก็บผมแสกข้างลึกจะเน้นที่ความเรียบเนี้ยบจากด้านบนลงมาจนถึงช่วงใบหู ส่วนผมที่เหลือสามารถเซ็ตได้ตามใจชอบ

ใครที่คิดว่าทรงผมแสกกลางอาจจะไม่เหมาะกับตัวเอง ผมแสกข้างลึกแบบนี้ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถครีเอทได้หลากหลายลุค ทั้งสวยสง่าเพื่อออกงานทางการ หรือจะเซ็ตให้ออกแนวเท่ๆ ก็ได้เช่นกัน

Editor’s tips: นอกเหนือกจากทรงผมที่เรียบ ไม่มีผมชี้ฟูแล้ว อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยทำให้ทรงผมแสกข้างดูดีขึ้นอีกมาก ก็คือเส้นผมที่ดูเงางามแบบ Glass Hair ที่ดูแล้วเป็นผมสุขภาพดี ซึ่งมีความต่างจากเว็ทลุค ตรงที่ผมจะไม่ดูเปียก แต่มีความแวววาวเหมือนเคลือบแก้วเอาไว้

เคล็ดลับการทำผมให้เงางามและจัดทรงที่ง่ายมากๆ คือ การใช้เซรั่มบำรุงผมก่อนการจัดทรง โดยใช้เซรั่ม 1-2 หยดถูบนฝ่ามือเบาๆ และลูบให้ทั่วเส้นผมก่อนไดร์หรือหวีเซ็ตทรง หรือ อีกวิธีหนึ่งที่สะดวกและง่ายไม่แพ้กัน ก็คือ การใช้ครีมนวดผมแบบเคลือบแก้ว โดยใช้นวดบำรุงผมหลังสระเหมือนครีมนวดผมทั่วไป ก็ช่วยให้เส้นผมดูเงางามขึ้นได้ (แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผมของแต่ละคนด้วย)

ผมเคลือบแก้ว

เทรซาเม่ เคราติน เกลสซิ่ง เซรั่ม คอนดิชั่นเนอร์

ดูผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม

สำหรับคนที่สนใจครีมนวดผมแบบเคลือบแก้วสำหรับบำรุงผมในขั้นตอนหลังสระ เราขอแนะนำให้ลองใช้ เทรซาเม่ เคราติน เกลสซิ่ง เซรั่ม คอนดิชันเนอร์ ครีมนวดผมสูตรเข้มข้น ที่มี Keratin Glazing Technology ซึ่งเข้าไปช่วยฟื้นบำรุงและเติมเต็มในไฟเบอร์ระดับโมเลกุล พร้อมเคลือบปิดเกล็ดผมด้านนอก ช่วยให้ผมนุ่มลื่น ดูไชน์ ดูเงา ดุจเคลือบแก้วเอาไว้เลยทีเดียว

Wet Soft Waves

อีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรง คือ ทรงผมแนว Wet soft waves คือผมดัดลอนอ่อนแบบบีชเวฟ แต่ผสมกับเว็ทลุค เหมือนทรงผมที่เดินตากฝนหรือไปเล่นน้ำที่ชายหาดมา ดูไม่เนี้ยบแบบเว็ทลุคก่อนๆ แต่ให้อารมณ์ซอฟต์และเซ็กซี่เบาๆ

Scarf & Hair Accessories

ปีนี้ไปจนถึงซัมเมอร์ปีหน้า ผ้าโพกผมและเครื่องประดับผมยังคงอินเทรนด์อยู่ ดังนั้น สาวๆ ยังเก็บเครื่องประดับสวยๆ เอาไว้ใช้ได้ต่อได้แบบสบายๆ ค่ะ

แต่ถ้าใครกำลังมองหาผ้า ริบบิ้นหรือเครื่องประดับผมสวยๆ เทรนด์ที่มาแรงในปีนี้ คือ โบว์อันโตๆ ผ้าโพกผมแนวกราฟฟิคและดอกไม้ ครื่องประดับผมที่เป็นดอกไม้ คริสตัลและไข่มุกค่ะ

Two-Colour Hair

ถ้าเบื่อการทำสีผมแบบเดิมๆ คุณอาจจะอยากลองมาทำตามเทรนด์ผมสองสีในฤดูกาลนี้กัน

เราพอจะเห็นสไตล์นี้ผ่านตากันมาบ้างจากนิวยอร์ก แต่ที่ลอนดอนรันเวย์ดูจะเด่นชัดขึ้น เพราะแบรนด์อย่าง Fashion East หรือ Fyodor Golan จับโทนสีผมสองสีนี้มาเล่นเข้าคู่กันกับคอลเลคชั่นเสื้อผ้าแซ่บๆ โดยมีทั้งโทนที่แบ่งชัดเจนสีบลอนด์กับสีดำแบบซ้ายขวาหรือบนล่าง และสองโทนสีใกล้เคียงกันเช่นบลอนด์กับส้มหรือชมพู

ไม่เพียงแต่โทนสีเท่านั้น แต่ทรงผมจากสองแบรนด์นี้ยังเป็นที่กล่าวขวัญถึงในสไตล์ที่แปลกและเด่นสะดุดตา ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากแฟชั่นแนวพังก์ร็อค

อัพเดทเทรนด์ฮอตฮิตจากลอนดอนกันไปแล้ว ใครอินกับทรงไหน ก็เตรียมตัวจัดไปก่อนเทรนด์จะมาในช่วงปลายปีนี้-ต้นปีหน้ากันได้เลยค่ะ

หรือใครอยากค้นหาแรงบันดาลใจอื่นๆ จากแฟชั่นบนรันเวย์ สามารถเลื่อนลงไปดูทรงผมสไตล์ต่างๆ ที่เราเคยนำมาฝากกันจากฤดูกาลก่อนๆ ได้เช่นกันค่ะ

แฟชั่นทรงผมจากรันเวย์

London Fashion Week AW19

1. Beaded headbands จาก Simone Rocha

ลุคแรกจาก LFW ที่เตะตาเอามากๆ ก็คือนางแบบจากแบรนด์ Simone Rocha ที่ม้วนผมเป็นคลื่นเบาๆ พร้อมประดับผมด้วยที่คาดผม ซึ่งร้อยเรียงด้วยลูกปัดและคริสตัลแวววับ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงแสนสวย เห็นอย่างนี้แล้วสาวๆ อย่างพวกเรา ก็ควรหาเฮดแบนด์สักอันมาประดับผมกันบ้างนะคะ

2. Pre-Raphaelite waves จาก Halpern

โชว์จากแบรนด์ Halpern เล่นกับเท็กซ์เจอร์ของผม โดยทำผมนางแบบให้เป็นคลื่นครึ่งหนึ่งช่วงกรอบหน้า แต่อีกครึ่งหนึ่งของปลายผมจะหนีบให้เรียบตรง ถือเป็นทรงผมที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ มีความยูนีคไม่เหมือนใคร เมื่อบวกกับเมคอัพสีทองที่ดวงตาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้นางแบบดูสวยโดดเด่นยิ่งขึ้น

3. Windswept and interesting จาก Alexachung

หากใครที่มีปัญหาผมชี้ฟูเพราะไฟฟ้าสถิตเป็นประจำล่ะก็ คุณต้องชอบผมทรงนี้แน่ๆ เพราะแบรนด์ Alexachung จับเอานางแบบมาทำผมทรง  Windswept หรือผมลอนที่ดูพลิ้วไหวราวกับมีลมพัด ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ แถมฟินนิชลุคด้วยการคาดผ้า Bandana ซึ่งช่วยเก็บผมให้ดูดีและให้อารมณ์แฟชั่นแบบยุค 90s

4. Rainbow lights จาก Mary Katrantzou

แฮร์พีซสีพาสเทลถูกเอามาใช้กับทรงผมในโชว์ของ Mary Katrantzou เพื่อให้เข้ากับคอลเลกชันสีรุ้งของแบรนด์นี้ โดยจะเอาช่อผมหลากสีมาติดแซมกับผมจริงของนางแบบ ซึ่งสีผมจะโผล่ออกมาให้เห็นชัดขณะเดินแบบ สร้างสีสันให้คอลเลกชั่นนี้ดูสดใสเป็นอย่างมาก

5. ’50s waves จาก Ryan Lo

หากเบื่อผมลอนแบบเดิมๆ แล้ว ก็ลองเอาแรงบันดาลใจจากเวที LFW ของแบรนด์ Ryan Lo ไปใช้กันได้ ซึ่งจะเป็นผมลอนแบบย้อนยุคแบบยุค ‘50s ที่จะทำผมแสกข้างลึกๆ พร้อมกับลอนผมใหญ่ๆ ดูสวยแกลม สวยแพง และมีความหรูหราในตัวเอง

ไม่เพียงทรงผมจากเวที London Fashion Week AW19 เท่านั้นที่เรานำมาฝากกัน แต่เรายังมีแฟชั่นทรงผมของเวทีนี้ในซีซันก่อนหน้ามาให้ดูกันด้วยค่ะ

6 แฟชั่นทรงผมสวยชิค ที่คุณควรลองให้สวยอินเทรนด์ก่อนใคร

จาก รันเวย์ London Fashion Week SS19

1. 90’s Glamorous Hair  จาก Julien Macdonald

โชว์เสื้อผ้าในคอลเลคชั่นสำหรับสปริง/ซัมเมอร์ หน้า ของ Julien Macdonald มาในสไตล์แกลมร็อค ที่ผสมผสานเนื้อผ้าแบบซีทรู ตาข่าย และความแวววาว รวมถึง เมคอัพแบบสโมกกี้อาย ให้ความสวยเท่และเซ็กซี่ ส่วนทรงผมได้แรงบันดาลใจมาจากทรงผมแกลมร็อคในยุค 90 เป็นแนว wet look comb over ซึ่งจะหวีปาดด้านข้าง และด้านบนไปทางด้านหลัง ส่วนผมด้านหลังจะปล่อยเป็นธรรมชาติ

เทรซาเม่ แฮร์สเปรย์ ซาลอน ฟินิช เอ็กซ์ตร้า โฮลด์

ดูผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม

Editor’s tip: ทรงผมหวีเสยแบบนี้ จะไม่เน้นที่ความเรียบเนี้ยบของเส้นผม แต่จะจัดทรงแบบยกโคนเพื่อให้ผมด้านบนดูมีวอลลุ่ม โดยผมด้านข้างที่หวีจะไปเหน็บด้วยกิ๊บไว้ด้านหลัง โดยซ่อนไว้ใต้เส้นผมที่ปล่อยเป็นธรรมชาติอีกทีหนึ่ง เป็นลุคที่สวยเท่และเหมาะกับการออกงานในหลายๆ โอกาส ส่วนเคล็ดลับในการทำผม แนะนำให้ได้เพิ่มวอลลุ่มด้วยฉีดดรายแชมพู  โทนี่ แอนด์ กาย แม็ท เท็กซ์เจอร์ ดราย แชมพู ก่อนจัดทรงผม  จะใช้หวีซี่เล็กหวีย้อนตรงโคนเล็กน้อยเพื่อเป็นการทำให้ผมพองฟูหนา แล้วจึงใช้ฉีดสเปรย์ เทรซาเม่ แฮร์สเปรย์ ซาลอน ฟินิช เอ็กซ์ตร้า โฮลด์ ลงบนหวีซี่ใหญ่ แล้วหวีปาดไปด้านหลังเพื่อเก็บผม หรือ ถ้าอยากได้เว็ตลุคที่ชัดเจน แนะนำให้ใช้ เทรซาเม่ เอ็กซ์ตร้า คอนโทรล ซาลอน ฟินิช มูส ในตอนที่หวีเก็บทรงผม จากนั้นปิดท้ายด้วยการฉีดสเปรย์จัดทรงผมอีกครั้ง เพื่อล็อคผมให้อยู่ทรงนาน

2. Floral braids จาก Bora Aksu

คอลเลกชั่นนี้ของ Bora Aksu เต็มไปด้วยผ้าลูกไม้และลวดลายดอกไม้ ซึ่งเป็นการเล่นกับพื้นผิวของเสื้อผ้า รวมไปถึงทรงผมของนางแบบด้วยเช่นกัน โดยผมสไตล์นี้มีการนำปลายเปียมามัดไว้ พร้อมประดับด้วยที่คาดผมลายลูกไม้อันใหญ่ๆ เสมือนมีสวนดอกไม้ผลิบานอยู่บนทรงผม

Editor’s tip: เพื่อเน้นให้ผมสไตล์นี้มีเท็กซ์เจอร์รับกับพื้นผิวของชุด ลองใช้ โทนี่ แอนด์ กาย เท็กเจอร์ไรซิ่ง ไฟเบอร์ ลูบขณะถักเปีย ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ผมมีความยุ่งนิดๆ แต่ก็เห็นเท็กซ์เจอร์ของเปียได้ชัดเจน รวมไปถึงผมยังอยู่ทรงได้ยาวนานอีกด้วย

3. Tang dynasty hairstyles จาก Simone Rocha

โชว์ของ Simone Rocha ได้แรงบันดาลใจมาจากประเทศจีน โดยมีการนำเอาทรงผมผู้หญิงสมัยราชวงศ์ถัง ในช่วงศตวรรษที่ 16 ของจีนมาประยุกต์ ซึ่งผมทรงนี้จะมีการเกล้าผมขึ้นไป และมวยเป็นแกละ พร้อมตกแต่งด้วยเครื่องประดับที่หรูหราอลังการ

4. Troll doll hair จาก Ashley Williams

ใน SS19 เราจะได้เห็นผลงานของ Ashley Williams ที่มาในธีมสนุกสนาน เพราะมีการจับเอานางแบบมาในลุคตุ๊กตา พร้อมทรงผมต้านแรงโน้มถ่วง โดยการมัดผมสูง แล้วทำปอยผมเป็นแฉกๆ ยกสูงชี้ขึ้นด้านบนแบบไร้ทิศทาง และประดับด้วยกิ๊บเก๋ๆ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทรงผมล้ำๆ ที่มีความแปลกใหม่ และน่าจับตามอง

5. Fairytale hair จาก Ryan Lo

Ryan Lo เปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่บนรันเวย์ London Fashion Week โชว์ผลงานสร้างสรรค์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโลกเทพนิยายของหนูน้อยหมวกแดง ผสมผสานกับสไตล์โกธิค โดยใช้ทรงผมบ๊อบหนาๆ มาพร้อมกับริบบิ้นแวววาว ในธีมเด็กน้อยไร้เดียงสา และยังสะท้อนให้เห็นว่าริบบิ้นยังคงเป็นที่นิยมบนรันเวย์เสมอ

6. ’90s punk hair จาก Molly Goddard

กระแส Spice mania และความเป็นพังค์ในยุค 90s เป็นรูปแบบของทรงผมที่ Molly Goddard จับมาเล่น โดยครีเอทในสไตล์ผมมัดจุกไซส์มินิ โดยให้ปลายผมชี้ๆ ขึ้นด้านบน ดูเป็น faux mohawk แบบเก๋ๆ ถือเป็นทรงผมอีกสไตล์หนึ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจบนเวทีนี้

เป็นไงบ้างคะสาวๆ สำหรับแบบทรงผมที่บรรดาดีไซเนอร์ และช่างผมระดับโลกได้สร้างสรรค์กันออกมาบนเวทีนี้ หากใครอยากลองเปลี่ยนแนว หรืออัพลุคใหม่ให้ทันแฟชั่น ก็สามารถเอาแบบทรงผมที่ชอบไปเป็นแรงบันดาลใจกันได้เลย