10 สูตรหมักผมให้มีน้ำหนัก ลดปัญหา ผมแห้งชี้ฟู ด้วยวัตถุดิบหาง่ายใกล้ตัว

สูตรหมักผมให้มีน้ำหนัก จะช่วยแก้ปัญหาผมแห้งชี้ฟู ให้กลับมามีชีวิตชีวาจนมีน้ำหนักทิ้งตัวสวยมากขึ้น เราสามารถหมักผมได้เองง่าย ๆ ด้วยวัตถุดิบราคาประหยัดที่หาได้ภายในห้องครัว ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันมะพร้าว น้ำผึ้ง หรือ มะนาว และก็ยังรวมไปถึงพวกเครื่องดื่ม อย่างเบียร์และกาแฟด้วย
วัตถุดิบเหล่านี้มีคุณค่าสารอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผมที่แห้งเสียให้มีน้ำหนักมากขึ้น ช่วยให้ผมนุ่มลื่น เงางาม และจัดทรงง่าย ยิ่งใช้หมักผมเป็นประจำ เส้นผมก็จะยิ่งสวยสุขภาพดีมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหากใครกำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาผมแห้งเสียไร้น้ำหนักอยู่ล่ะก็ ต้องตามมาดูสูตรหมักผมดีๆ ที่เราเอามาฝากกันนี้เลยค่ะ
สูตรหมักผมให้มีน้ำหนัก
วัตถุดิบ 10 อย่าง ใกล้ตัว ที่สามารถนำมาทำสูตรทรีทเม้นท์หมักผม ช่วยให้ผมนุ่มสวยมีน้ำหนัก ไม่แห้งเสียหรือชี้ฟู จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
- หมักผมด้วยโยเกิร์ต
- หมักผมด้วยเบียร์
- หมักผมด้วยกาแฟ
- หมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าว
- หมักผมด้วยน้ำผึ้ง
- หมักผมด้วยมะนาว
- หมักผมด้วยกล้วยหอม
- หมักผมด้วยซินนามอน
- หมักผมด้วยอะโวคาโด
- หมักผมด้วยชาเขียว
1. สูตรหมักผมด้วยโยเกิร์ต

หลายคนอาจจะเคยใช้โยเกิร์ตพอกหน้ามาก่อน แต่ก็ยังสามารถนำมาใช้หมักผมได้ด้วยเช่นกัน เพราะตัวของโยเกิร์ตมีสารบำรุงที่ช่วยบำรุงให้เส้นผมนุ่มสลวย มีสุขภาพดี และช่วยแก้ปัญหาผมแตกปลายได้อีกด้วย
วิธีหมักผม
- ผสมไข่แดงกับโยเกิร์ตให้เข้ากัน จากนั้นนำมาชโลมและนวดให้ทั่วเส้นผม
- หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงสระออกให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า
สามารถใช้สูตรนี้ได้เป็นประจำทุกสัปดาห์ ทั้งนี้เพราะในไข่แดงและโยเกิร์ตอุดมไปด้วยโปรตีนและสารอาหารที่จำเป็น เมื่อรวมกันแล้วจึงทำให้โปรตีนซึมซาบสู่เส้นผมได้อย่างล้ำลึก ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก และถ้าใครมีปัญหาผมชี้ฟูด้วย ก็ใส่น้ำมันมะกอกเพิ่มลงไปด้วยนิดหน่อย ก็จะช่วยให้ผมเรียบลื่น มากขึ้น
2. สูตรหมักผมด้วยเบียร์

เบียร์ไม่ได้มีดีแค่เป็นเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังเอามาใช้หมักผมได้ด้วย โดยเบียร์จะช่วยเรื่องของการปรับสภาพเส้นผม ช่วยปิดเกล็ดผม พร้อมยังเพิ่มความเงางามและสร้างความยืดหยุ่นให้แก่เส้นผมด้วย
วิธีหมักผม
- นำไข่ไก่ 1 ฟอง แยกเอาไข่ขาวออก เพราะใช้แค่ไข่แดง แล้วเอาเบียร์เทลงไปผสม และคนให้เข้ากันดี
- จากนั้นเอามาชโลมเส้นผมให้ทั่วศีรษะ หมักทิ้งไว้ 30-45 นาที แล้วจึงล้างสระผมให้สะอาด
สูตรนี้จะช่วยให้เส้นผมแข็งแรง ลดปัญหาผมร่วง และทำให้เส้นผมมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าเดิม
3. สูตรหมักผมด้วยกาแฟ

กาแฟที่เราดื่มอยู่ทุกวัน นอกจากจะรสชาติแสนอร่อย และช่วยแก้ง่วงได้ดีแล้ว ยังเอามาบำรุงผมได้ด้วยนะ โดยประโยชน์ของการหมักผมด้วยกาแฟมีหลายอย่างเลยด้วยกัน ทั้งช่วยป้องกันผมร่วง บำรุงหนังศีรษะ แก้ผมมัน ทำให้ผมนุ่มลื่นไม่พันกัน และทำให้ผมมีน้ำหนักมากขึ้น
วิธีหมักผม
- หลังจากสระผมด้วยแชมพูตามปกติแล้ว ก็ให้นำกากกาแฟมาผสมลงในครีมนวดผมให้เข้ากัน
- จากนั้นเอามาชโลมผมตั้งแต่โคนจรดปลายผม พร้อมกับนวดหนังศีรษะไปด้วย จากนั้นหมักทิ้งไว้สัก 5-10 นาที แล้วจึงล้างออก
สูตรนี้จะช่วยให้เส้นผมเงางาม มีน้ำหนัก ดูหนานุ่มมากขึ้น
4. สูตรหมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวหมักผม เป็นสูตรที่เหมาะสำหรับคนที่มีผมแห้ง หรือผมธรรมดาก็สามารถทำได้ เพราะน้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินที่ช่วยลดปัญหาผมแห้งเสียชี้ฟู พร้อมเติมความชุ่มชื้นและคืนสมดุลให้กับเส้นผมอีกด้วย
วิธีหมักผม
- ใช้น้ำมันมะพร้าวในปริมาณที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับความหนาบางของเส้นผม โดยชโลมน้ำมันมะพร้าวให้ทั่วทั้งศีรษะพร้อมนวดเล็กน้อย
- จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วจึงล้างออก หรือถ้าหากมีเวลาก็สามารถหมักผมในตอนกลางคืนก่อนนอน โดยใช้หมวกคลุมผมไว้
เมื่อตื่นนอนจึงค่อยชำระล้างทำความสะอาดเส้นผมในตอนเช้าก็ได้เช่นกัน ซึ่งเมื่อหมักผมเส้นเรียบร้อยจะเห็นได้ชัดว่าเส้นผมดูมีน้ำหนักและนุ่มลื่นเงางาม
5. สูตรหมักผมด้วยน้ำผึ้ง

การใช้ไข่และน้ำผึ้ง เป็นสูตรหมักผมสำหรับคนที่มีผมเสีย เนื่องด้วยน้ำผึ้งถือเป็นวัตถุดิบหนึ่งที่มีสารพัดประโยชน์ด้านความงาม สามารถนำมาบำรุงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ อาทิ ใบหน้า, ผิวพรรณ รวมถึงเส้นผม เพราะน้ำผึ้งมีคุณสมบัติทั้งดูแลและปกป้องเส้นผมให้แข็งแรง ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ ที่เป็นสารอาหารในการบำรุงเส้นผมชั้นดี
วิธีหมักผม
- นำไข่ไก่ 2 ฟอง โดยแยกเอาเฉพาะไข่แดง มาผสมกับน้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
- นำมาชะโลมให้ทั่วทั้งศีรษะ โดยใช้เวลาหมักประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
พร้อมสระผมด้วยแชมพูอีกครั้ง เมื่อสระผมเสร็จเรียบร้อยจะสัมผัสได้ทันทีถึงความสดชื่น และเส้นผมนุ่มลื่นเงางามมากขึ้น
6. สูตรหมักผมด้วยมะนาว

สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพเส้นผมธรรมดา โดยคุณสมบัติของมะนาวจะทำหน้าที่ผลัดเซลล์ให้หลุดออกไปอย่างอ่อนโยน ช่วยลดปัญหาการขาดร่วงของเส้นผม และช่วยลดอาการคันจากรังแค พร้อมมีกลิ่นหอมสดชื่นจากธรรมชาติ
วิธีหมักผม
- ผสมน้ำมะนาว 8 ช้อนโต๊ะ กับน้ำเปล่าครึ่งถ้วยแล้วคนเข้าด้วยกัน
- นำไปชโลมบนเส้นผมให้ทั่วทั้งศีรษะ พร้อมใช้ปลายนิ้วนวดหนังศีรษะเบา ๆ จากนั้นคลุมผมด้วยหมวกคลุม หมักผมทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สระผมต่อได้ตามปกติ ซึ่งสูตรนี้จะช่วยลดความมันของเส้นผม และทำให้ผมสะอาดดูสุขภาพดี
7. สูตรหมักผมด้วยกล้วยหอม
หนึ่งในผลไม้ที่ทั้งอร่อยและล้นไปด้วยคุณค่า แถมยังหาง่ายอย่างกล้วยหอม อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมายที่ส่งผลให้เส้นผมมีสุขภาพดี เช่น โพรแทสเซียม ช่วยบำรุงหนังศีรษะ ซิลิกา ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้น
วิธีหมักผม
1.นำกล้วยหอมสุก 1 ผลมาบดละเอียดจนไม่เป็นก้อน เติมน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันหรือจะใช้เครื่องปั่นก็ได้
2.พอกไว้ให้ทั่วศีรษะ ใช้ปลายนิ้วนวดคลึงให้ทั่ว ทิ้งไว้ 20-25 นาทีแล้วล้างออกให้หมดจด
เป็นสูตรง่าย ๆ ที่จะช่วยคืนความมีชีวิตชีวาให้เส้นผม ดูนุ่มสลวยเงางาม มีน้ำหนัก ไม่ลีบแบน
8. สูตรหมักผมด้วยซินนามอน
เคยลองกันหรือยังกับสูตรหมักผมด้วยซินนามอน สมุนไพรในกลุ่มเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งคนไทยเรียกกันว่า อบเชย มีฤทธิ์ในการต่อต้านจุลินทรีย์ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต จึงช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและความแข็งแรงของเส้นผมได้ดี
วิธีหมักผม
1.ผสมผงซินนามอนและน้ำมันมะพร้าวในปริมาณที่เท่ากัน กะสัดส่วนตามความยาวของเส้นผม นำมาชโลมโดยเริ่มจากรากผมไปจนจรดปลาย นวดโดยเน้นให้ทั่วหนังศีรษะ
2.ทิ้งไว้ราว 30-45 นาที แล้วจึงล้างออกให้สะอาด
เส้นผมจะดูฟื้นคืนสู่ความมีชีวิตชีวา สุขภาพดี พลิ้วสวย มีน้ำหนัก ลดอาการอักเสบและไม่ทำลายน้ำมันตามธรรมชาติของหนังศีรษะ แถมยังช่วยให้เส้นผมที่เกิดใหม่แข็งแรง
9. สูตรหมักผมด้วยอะโวคาโด
นอกจากนำไปใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงเมนูอร่อยที่สายคลีนโปรดปรานแล้ว อะโวคาโด ยังเป็นตัวช่วยชั้นหนึ่งในการบำรุงเส้นผม ด้วยความเป็นแหล่งของแหล่งของวิตามิน B และ E ตลอดจนกรดอะมิโน ที่มีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้นในเส้นผม ช่วยให้รากผมแข็งแรง
วิธีหมักผม
1.นำเนื้ออะโวคาโดสุก 1 ผล ผสมกับน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ และไข่แดง 1 ฟอง คนให้เข้ากัน
2.หมักให้ทั่วศีรษะแล้วสวมหมวกคลุมผมหรือพันคลุมด้วยพลาสติกแร็พ ทิ้งไว้ 10-20 นาที จึงสระออกด้วยแชมพู
สูตรนี้จะช่วยปรับสภาพเส้นผมที่แห้งและชี้ฟู ให้กลับคืนสู่ความนุ่มลื่น เรียงเส้นสวยเงางาม ดูยืดหยุ่น มีน้ำหนัก
10. สูตรหมักผมด้วยชาเขียว
กลิ่นหอมยามจิบชาเขียวร้อน ๆ อาจชวนให้จิตใจรู้สึกสงบ แต่ในขณะเดียวกัน ชาเขียวก็ยังสามารถนำมาใช้เพื่อช่วยปลอบประโลมหนังศีรษะ เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารที่ส่งผลให้รากผมแข็งแรง เส้นผมแลดูมีสุขภาพดี เรียงเส้นสวย
วิธีหมักผม
1.นำชาเขียว 1 ถ้วย ผสมกับน้ำมันเปปเปอร์มินต์ 2 หยด และแอปเปิ้ล ไซเดอร์ เวเนการ์ 1 ช้อนโต๊ะ
2.ชโลมบนเส้นผมที่แห้งสะอาด ทิ้งไว้เพียง 5 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
ผลที่ได้รับคือเส้นผมที่ดูชุ่มชื้นมีน้ำหนัก แล้วยังเป็นการช่วยปรับระดับ pH ของหนังศีรษะให้สมดุล ลดการอักเสบ เส้นผมดูแข็งแรงสะบัดพลิ้วอย่างมีน้ำหนัก
Editor’s Pick : ผลิตภัณฑ์แนะนำจากบรรณาธิการ
ภายหลังจากหมักผมด้วยวัตุดิบจากธรรมชาติแล้ว บรรณาธิการของเรา ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลและบำรุงผมมาฝากกันเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของผมที่สวย สะอาดและสุขภาพดี ทั้งยังให้ความรู้สึกที่เบาสบายและผมมีน้ำหนัก ไม่ชี้ฟูอีกด้วยค่ะ
ครีมบำรุง ที่มีส่วนผสมจากน้ำมะพร้าว เข้าบำรุงให้ผมนุ่มชุ่มชื้น มีวอลลุ่มไม่ลีบแบน*
*จากการทดสอบปอยผมเมื่อใช้ซันซิลแชมพูและคอนดิชันเนอร์เทียบกับผมลีบแบน
ครีมบำรุง ที่มีส่วนผสมจากน้ำผึ้งและอัลมอนด์ออยล์ ช่วยฟื้นบำรุงคืนความชุ่มชื้นและชีวิตชีวาให้เส้นผม ผมดูสุขภาพดี ไม่เปราะขาดง่าย*
*จากการทดสอบการขาดร่วงของปอยผมเมื่อใช้ซันซิลแชมพูและคอนดิชันเนอร์เทียบกับแชมพูที่ไม่มีสารคอนดิชันเนอร์
ครีมบำรุงผม ซึ่งมาพร้อมกับสารสกัดจากขิงและชาเขียว ใช้แล้วไม่ทำให้รู้สึกหนักผม และให้กลิ่นหอมสดชื่น ให้เส้นผมเบาสบายตั้งแต่โคนจรดปลาย

ครีมบำรุงผมที่มาพร้อม นูทริ ออยล์ เทคโนโลยี มีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติหลากชนิด ช่วยให้ผมที่แห้งชี้ฟูกลับมามีน้ำหนัก นุ่มลื่นขึ้นและจัดทรงง่าย พร้อมช่วยบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก โดยไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ

เซรั่มบำรุงผม เนื้อบางเบา ซึมเข้าไปบำรุงผมได้ง่าย ใช้แล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยให้ผมนุ่มลื่น ไม่ชี้ฟู และให้ผมยิ่งหอมยาวนานไปตลอดทั้งวัน และยังเป็นสูตรธรรมชาติที่ประกอบไปด้วยคุณค่าน้ำผึ้งจากฝรั่งเศส และอัลมอนด์ออยล์จากแคลิฟอร์เนียที่มาจากธรรมชาติ 100%
หวังว่าจะถูกใจกับสูตรหมักผมและผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำให้เส้นผมของเราดูดีขึ้นได้แบบง่ายๆ สำหรับใครที่อยากใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เราก็มีสาระดีดีเตรียมไว้ให้อ่านมากมาย แล้วอย่าลืมกลับมาติดตามสาระเรื่องการดูแลผมจากเราได้เป็นประจำที่ All Things Hair ค่ะ

เรื่องฮอตในตอนนี้

